ยื่นภาษี 2564 สรุปภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีรายการอะไรลดหย่อนภาษีได้บ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนยื่นภาษีภายใน 31 มี.ค. 65 สำหรับผู้ที่ยื่นผ่านสรรพากร หรือกรณียื่นผ่านอินเตอร์เน็ต ภายใน 8 เม.ย. 65 รวบรวมให้ครบแล้วที่นี่
เริ่มฤดูกาล”ยื่นภาษีปี 2564″ ผู้ที่มีรายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งกรมสรรพากร กำหนดให้ยื่นแบบแสดงรายการ กรณียื่นแบบกระดาษภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 และกรณียื่นผ่านอินเตอร์เน็ตสามารถยื่นได้ภายในวันที่ 8 เมษายน 2565 “ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล” ได้สรุปสิทธิการลดหย่อนภาษีปี 2564 สามารถลดหย่อนอะไรได้บ้างและได้เท่าไร รายละเอียดดังนี้
ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
1.ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
2.ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท (คู่สมรสต้องไม่มีรายได้ )
3.ค่าลดหย่อนบุตร 30,000 บาทต่อคน
จะต้องเป็นบุตรโดยกฎหมายหรือบุตรบุญธรรม และบุตรต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี หรืออายุ 20 ปี – 25 ปีและกำลังศึกษาอยู่ ในกรณีที่บุตรอายุเกิน 25 ปี ขึ้นไป แต่มีสถานะเป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถก็สามารถลดหย่อนภาษีได้ และในกรณีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป และเกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป สามารถลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
หากเป็นบุตรตามกฏหมายสามารถนำมาลดหย่อนได้ไม่จำกัดจำนวนคน
หากเป็นบุตรบุญธรรมสามารถลดหย่อนได้เพียง 3 คนเท่านั้น
หากบุตรตามกฎหมายเกิน 3 คนไม่สามารถนำบุตรบุญธรรมมาลดหย่อนได้
หากจะนำทั้งบุตรตามกฎหมายและบุตรบุญธรรมมาลดหย่อน ให้นำบุตรตามกฎหมายมาลดหย่อนก่อน
4.ค่าลดหย่อนฝากครรภ์ และคลอดบุตร ไม่เกิน 60,000 บาท ต่อการตั้งครรภ์ 1 ครั้ง สำหรับเด็กแฝดลดหย่อนได้แค่ 60,000 บาท เพราะถือเป็นการตังครรภ์ครั้งเดียว
สามี – ภรรยาจะต้องตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้ใช้สิทธิลดหย่อนนี้
หากยื่นภาษีและเสียภาษีร่วมกัน ผู้ที่ยื่นภาษีสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ 60,000 บาท
หากนำไปรวมกับสิทธิการเบิกค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรจากสวัสดิการภาครัฐและเอกชน ต้องไม่เกิน 60,000 บาท
เงื่อนไข : หักตามค่าใช้จ่ายจริงทั้งค่าตรวจครรภ์ ค่าฝากครรภ์ ค่าทำคลอด ค่าบำบัด ค่าพักฟื้นในโรงพยาบาล
5.ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและของคู่สมรส คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 120,000 บาท โดยบิดามารดาจะต้องมีอายุมากกว่า 60 ปี และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท
6.ค่าอุปการะผู้พิการ หรือทุพพลภาพ 60,000 บาทต่อคน
เงื่อนไข : ผู้ทุพพลภาพต้องมีบัตรประจำตัวผู้พิการ และผู้มีรายได้จะต้องเป็นผู้ที่ดูแลคนพิการตามกฏหมายว่าด้วย “การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ”
ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออมและการลงทุน
ลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน
1.เงินส่งสมทบประกันสังคม สำหรับในปี 2564 นี้ สามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 5,100 บาท จากเดิมที่ลดหย่อนได้สูงสุด 9,000 บาท ( เนื่องจากปี 2564 มีการปรับลดเงินนำส่งสมทบประกันสังคม เพื่อลดภาระในช่วงโควิด-19 ถึง 3 รอบ คือ รอบเดือนมกราคม เหลือ 3% ,รอบเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม เหลือ 0.5% และรอบเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน เหลือ 2.5% )
คลิก : ประกันสังคม เงินสมทบใช้ลดหย่อนภาษีได้ เช็คเลย
2.ประกันชีวิต ประกันแบบสะสมทรัพย์ และประกันสุขภาพ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เงื่อนไข :
ประกันสุขภาพ ต้องไม่เกิน 25,000 บาท
เป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในไทย
3.ประกันสุขภาพของบิดา-มารดา ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
เงื่อนไข :
บิดา – มารดา ต้องไม่มีเงินได้ในปีภาษีที่หักลดหย่อนเกิน 30,000 บาท ไม่จำเป็นต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
4.เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
เงื่อนไข :
ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย
จ่ายผลประโยชน์เป็นรายงวดอย่างสม่ำเสมอ
ลดหย่อนภาษีกลุ่มการลงทุน
( ข้อ 1- 5 รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ) ประกอบด้วย
1.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท
2.กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท
3. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) / กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน สามารถลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
4.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามที่จ่ายจริง สูงสุดปีละ 13,200 บาท
5.เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ 15% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
ค่าลดหย่อนภาษีที่อยู่อาศัย
ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
1.เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี
2.เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น
3.เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง นำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
สำหรับรายการการซื้อสินค้า ภายใต้มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ที่ซื้อสินค้าและบริการภายใต้เงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2565 สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ในปีภาษี 2565 ซึ่งจะยื่นแบบภาษีในปี 2566 ( วันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค.2566)
อ้างอิงข้อมูลที่มา : กรมสรรพากร , สำนักงานประกันสังคม
อ้างอิง
https://www.thansettakij.com/blogs/money_market